วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเพาะเมล็ด และการปักชำหม้อข้าวหม้อแกงลิง

สำหรับการเพาะเมล็ดหม้อข้าวหม้อแกงลิง ผมมีข้อแนะนำพื้นฐานเพื่อให้ท่านผ่านมันไปได้เท่านั้น โดยมีข้อแนะนำดังนี้


- สิ่งแรกที่เน้นย้ำเลยคือต้องมีเมล็ดครับ และควรจะต้องเป็นเมล็ดที่มีความสดใหม่มากที่สุด แนะนำว่าอายุเมล็ดไม่ควรเกิน 20 วัน นับจากวันเก็บนะครับ เกินจากนี้ก็เสี่ยงเอาเอง
- เครื่องปลูกพื้นฐาน ให้ใช้ขุยมะพร้าว หรือกาบมะพร้าวสับเล็ก แช่น้ำไว้สัก 3 คืน
จะโรยปุ๋ยออสโมโคทหรือไม่โรยก็ได้ ถ้าโรยไว้ ลูกไม้จะโตได้ดีกว่าไม่โรย เพราะเมื่อใช้อาหารที่สะสมไว้หมด เค้าจะเริ่มใช้อาหารจากปุ๋ยต่อเลย
- ควรหาถุงพลาสติกเจาะรูระบายอากาศพอสมควร มาทำการหุ้มห่อไว้ เพื่อป้องกันเมล็ดกระเด็น เวลาฝนตก และช่วยเพิ่มความชื้น ช่วยป้องกันวัชพืช ถ้ารูระบายอากาศดี สามารถวางไว้แดด 50% ได้เลย โดยที่ลูกไม้ไม่ตายนึ่ง เช็คเครื่องปลูกอย่าให้แห้ง
- เมื่อท่านได้เมล็ดมาแล้ว ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ให้ท่านรีบปลูกทันที เนื่องจากเมล็ดหม้อข้าวหม้อแกงลิง หมดอายุไวมาก แค่ประมาณ 30 วัน อัตราการงอกก็หายไปมากกว่า 50% แล้วนะครับ และโปรดระวังเมล็ดที่มีต้นตอจากประเทศอินโดนีเซีย มักจะเพาะไม่ขึ้นเลย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เอาเมล็ดหม้อชนิดอื่นมาขายเป็นตัวที่เราต้องการ คนขายเก็บไว้ 60 วัน ส่งมาให้เรามันก็ไม่ขึ้นแล้วครับ เสียเงินฟรีๆ 100% บางคนก็เพาะงอก แต่พอเลี้ยงจนโตแล้ว กลับไม่ใช่สายพันธุ์ที่ได้แจ้งไว้ตอนซื้อมา ผมสรุปให้เลยแล้วกันครับว่า 100% ของเมล็ดหม้อจากอินโดนีเซีย เค้าหลอกกินตังค์คุณแน่นอนยิ่งกว่านอนแน่นิ่ง ให้หาซื้อจากคนไทยที่ทำเมล็ดเองครับ ราคาปัจจุบันก็ถูกขี้แตกขี้แตนครับ

- เมล็ดจะเริ่มงอกนับจากวันที่เราเพาะตั้งแต่ 10 วัน ไปจนถึง 30 วัน หรือมากกว่านั้น สำหรับผม ถ้า 60 วันแล้วยังไม่งอก ผมจะไม่รอครับ บางคนเค้านานกว่านั้นมันก็ขึ้นนะ แต่ก็ส่วนน้อย
- ข้อดีของการเพาะเมล็ดคือ ลูกไม้ที่คุณจะได้นั้น มันไม่เหมือนใคร และมันไม่เหมือนกัน นี่แหละผมถือว่าสุดยอด อยากรู้ลองเพาะดู บางตัวโตเร็ว บางตัวโตช้า ก็ว่ากันไปถ้าคุณชอบปลูกต้นไม้ ผมว่าคุณรอมันได้นะ จะมีเรื่องของการปลูกหม้อข้าวหม้อแกงลิงเพาะเมล็ด เป็นภาคต่อจากนี้ ก็เข้าไปชมกันได้ครับ


ทีนี้มาดูเรื่องของการปักชำ ก็ปักชำเหมือนกิ่งโหระพานี่แหละครับ ตามภาพเลย ใช้ขุยมะพร้าว หรือกาบมะพร้าวสับ เอาไว้ร่มรำไร เดี๋ยวเค้าค่อยๆ โตเอง กิ่งที่แก่เกินชำก็จะไม่งอกนะครับ อาจใช้วิธีการอบในถุงพลาสติกเข้ามาช่วยก็ได้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำแบบพื้นฐานที่สุดแล้วครับ ส่วนเทคนิคต่างๆ ของนักเลี้ยงแต่ละท่าน ท่านหาอ่านดูตาม webboard หม้อทั่วๆ ไปได้ครับ มันแล้วแต่ไอเดีย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น